อยากเปิดร้านกาแฟ ควรรู้อะไร?

สวัสดีค่ะ สนใจอยากเปิดร้านกาแฟค่ะ คำนี้ได้ยินทุกวันๆ ละหลายรอบตั้งแต่เช้าจนค่ำ ในความคิดของผมนั้นก็มีคำถามหลายคำถามที่ไม่กล้าถามลูกค้า

ต่อไปนี้เป็นคำถามที่อยากได้ลูกค้าแต่ก็ไม่ได้ถามออกไปเพราะมันไม่ใช่หน้าที่กงการอะไรของผม และก็กลัวว่าลูกค้าจะหาว่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง

ขายกาแฟอะไร ขายอยู่ที่ไหน พื้นที่เป็นยังไง ขายแก้วเท่าไหร่ กลุ่มลูกค้าเป็นใคร ทำไมเขาต้องซื้อกาแฟคุณ ทั้งๆ ที่ที่ไหนก็มีแต่ร้านกาแฟเต็มไปหมด คุณชงอร่อยกว่าคนอื่นๆ หรือ แล้วยังไง? หลายร้านก็ชงอร่อยกว่า Amazon นะ แต่เจ๋งก็มี สิ่งที่ผมอยากบอกนั้นคือ คุณทำการตลาดไม่เป็นครับ สุดท้ายลงเอยต้องเซ้งกิจการ มาถามขายซุ้มกาแฟคืนให้เรา แล้วอย่าหวังว่าจะได้ราคาดีหรือจะได้คืนทุนอะไร ไม่ได้แน่นอนครับ แต่ตลาดซุ้มกาแฟมือสองนั้นไม่ค่อยมีใครสนใจหรือสภาพและรูปลักษณ์เท่าไหร่ เอาถูกเข้าว่า และยิ่งมีเรื่องของการขนส่งเข้ามาอีก เพราะอย่าลืมนะครับว่า ซุ้มกาแฟ เรียกก่าซุ้มเฉยๆ นะ แต่จริงๆ แล้วมันคือบ้านหลังเล็กๆ น้ำหนักเป็น 1000 กิโลกรัมเลยนะครับ แน่นอนว่าค่าเคลื่อนย้ายหรือค่ารถเฮี๊ยบบางทีตกเป็นหมื่น เพราะฉะนั้นทำใจได้เลยครับ ถ้าได้เจ้งแล้ว ก็ทำได้แค่จะเสียมากหรือเสียน้อยแค่นั้นเอง

แล้วจะทำยังไงถึงจะรอดถ้าเปิดร้านขายกาแฟ จะสด หรือโบราณ หรืออะไรก็ช่าง คำตอบคือนอกจากรสชาติและพื้นที่แล้วการตลาดต้องมาอัน 1 เสมอ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ อยากเปิดร้านกาแฟค่ะ แนะนำยังไงดีค่ะ อยากเปิดร้านกาแฟค่ะ ถ้าเจ้งจะซื้อซุ้มคืนให้ราคาเท่าไหร่ค่ะ แล้วก็ บลาๆๆๆ  คำแนะนำคือชงกาแฟให้เป็นก่อน หาพื้นที่ขาย หาวิธีการตลาด ตอบให้ได้ว่าทำไมเขาต้องซื้อคุณ และต้องกลับมาซื้อซ้ำๆ

ในบทความต่อไปเดี่ยวผมมาแนะนำวิธีทำตลาดง่ายๆ นะครับ

ซุ้มกาแฟ ไม่ใช่ซุ้มกาแฟ

สินค้าซุ้มกาแฟ ด้วยคำว่าซุ้มอาจจะทำให้ดูเหมือนไม่มีราคา แต่ถ้าบอกว่าบ้านกาแฟ พอดูเหมือนจะมีราคาขึ้นบ้างมั้ย  จริงๆ ในการผลิตซุ้มกาแฟจากทาง KMP เรานั้น วัสดุและโครงสร้าง รวมไปจนถึงขั้นตอนการทำผนังและลงสี ล้วนแล้วแต่ใช้วัสดุมาตรฐานที่ใช้ทำบ้าน ฉะนั้นจะเรียกว่าเป็นบ้านหลังเล็กๆ คงไม่ผิด แต่ด้วยในราคาหลักหมื่น นับว่าเป็นบ้านหลังที่ถูกมากครับ